รู้ก่อนใส่ รีเทนเนอร์ (Retainer) คืออะไร มีกี่แบบ เลือกแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด

รีเทนเนอร์ (Retainer)
ใครที่จัดฟันใกล้เสร็จแล้วต้องรู้! หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน เราต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer) เพื่อคงตำแหน่งฟันให้เรียงสวยสมบูรณ์แบบ เหมือนตอนที่เรายังจัดฟันอยู่ ตอบทุกคำถามว่า รีเทนเนอร์คืออะไร และดูแลรักษาอย่างไร
ใครที่จัดฟันใกล้เสร็จแล้วต้องรู้! หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน เราต้องใส่รีเทนเนอร์(Retainer) เพื่อคงตำแหน่งฟันให้เรียงสวยสมบูรณ์แบบ เหมือนตอนที่เรายังจัดฟันอยู่ ตอบทุกคำถามว่า รีเทนเนอร์คืออะไร และดูแลรักษาอย่างไร  
รีเทนเนอร์(Retainer) คือเครื่องมือคงตำแหน่งฟัน หลังเราจัดฟันเสร็จแล้ว ให้ยังคงเรียงตามตำแหน่งเดิมเหมือนยังจัดฟันอยู่ เพราะหลังจากถอดเครื่องมือแล้ว ในช่วงแรกฟันจะยังไม่ยึดติดกับกระดูกในบริเวณนั้น จะต้องมีระยะเวลาประมาณ 6 – 12 เดือน ในการปรับตัวของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ด้วยการใส่รีเทนเนอร์ตามทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เนื่องจากรีเทนเนอร์จะมีบทบาทสำคัญในการตรึงฟันให้อยู่ ณ ตำแหน่งนั้น เพื่อทำให้กระบวนการในการยึดติดของฟันเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
รีเทนเนอร์(Retainer) คือเครื่องมือคงตำแหน่งฟัน หลังเราจัดฟันเสร็จแล้ว ให้ยังคงเรียงตามตำแหน่งเดิมเหมือนยังจัดฟันอยู่ เพราะหลังจากถอดเครื่องมือแล้ว ในช่วงแรกฟันจะยังไม่ยึดติดกับกระดูกในบริเวณนั้น จะต้องมีระยะเวลาประมาณ 6 – 12 เดือน ในการปรับตัวของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ด้วยการใส่รีเทนเนอร์ตามทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เนื่องจากรีเทนเนอร์จะมีบทบาทสำคัญในการตรึงฟันให้อยู่ ณ ตำแหน่งนั้น เพื่อทำให้กระบวนการในการยึดติดของฟันเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
รีเทนเนอร์ (Retainer)
เพื่อให้ฟันคงความเรียงตัวสวย และไม่ให้เกิดปัญหาฟันล้มตามมา จนทำให้ต้องไปจัดฟันรอบสองอีก การมีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์เป็นเรื่องสำคัญมาก
เพื่อให้ฟันคงความเรียงตัวสวย และไม่ให้เกิดปัญหาฟันล้มตามมา จนทำให้ต้องไปจัดฟันรอบสองอีก การมีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์เป็นเรื่องสำคัญมาก
ปัจจุบันรีเทนเนอร์มีหลากหลายแบบให้เลือก ทางที่ดีคือ เลือกให้ถูกกับไลฟ์สไตล์เราที่สุด เพื่อป้องกันการลืมใส่ ทำหาย หรือทำหล่น นั่งทับ จนเกิดความเสียหายกับรีเทนเนอร์ได้
ปัจจุบันรีเทนเนอร์มีหลากหลายแบบให้เลือก ทางที่ดีคือ เลือกให้ถูกกับไลฟ์สไตล์เราที่สุด เพื่อป้องกันการลืมใส่ ทำหาย หรือทำหล่น นั่งทับ จนเกิดความเสียหายกับรีเทนเนอร์ได้

รีเทนเนอร์มีทั้งหมด 2 ประเภท

รีเทนเนอร์มีทั้งหมด 2 ประเภท

1. รีเทนเนอร์แบบถอดได้

1. รีเทนเนอร์แบบถอดได้

รีเทนเนอร์แบบถอดได้จะเป็นรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาถูก ไปจนถึงแพง ให้เลือกได้ตามความเหมาะสม และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ถอด-ใส่ ได้ตลอดเวลา ตัวอย่างรีเทนเนอร์แบบถอดได้ คือ
รีเทนเนอร์แบบถอดได้จะเป็นรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาถูก ไปจนถึงแพง ให้เลือกได้ตามความเหมาะสม และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ถอด-ใส่ ได้ตลอดเวลา ตัวอย่างรีเทนเนอร์แบบถอดได้ คือ

  • รีเทนเนอร์แบบลวด
  • รีเทนเนอร์แบบลวด
  • รีเทนเนอร์แบบลวด หรือ รีเทนเนอร์ลวดนั้น เป็นรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรีเทนเนอร์ที่มีฐานที่ทำมาจากอะคริลิค เป็นส่วนที่ทำการพิมพ์ออกมาได้รูปร่างพอดีกับเพดานปาก และส่วนที่เป็นลวดโลหะที่ครอบตามแนวฟันของคนไข้จะมีอะคริลิกหุ้มอยู่ เพื่อล็อกตำแหน่งฟัน ป้องกันการเคลื่อนที่ของฟัน หลังจากถอดเครื่องมือสำหรับจัดฟัน

    ซึ่งรีเทนเนอร์ลวดนั้นควรถอดเฉพาะตอนทานข้าว หรือใส่ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และมีอายุการใช้งานนานถึง 5-10 ปีโดยประมาณ
    รีเทนเนอร์แบบลวด หรือ รีเทนเนอร์ลวดนั้น เป็นรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรีเทนเนอร์ที่มีฐานที่ทำมาจากอะคริลิค เป็นส่วนที่ทำการพิมพ์ออกมาได้รูปร่างพอดีกับเพดานปาก และส่วนที่เป็นลวดโลหะที่ครอบตามแนวฟันของคนไข้จะมีอะคริลิกหุ้มอยู่ เพื่อล็อกตำแหน่งฟัน ป้องกันการเคลื่อนที่ของฟัน หลังจากถอดเครื่องมือสำหรับจัดฟัน
    ซึ่งรีเทนเนอร์ลวดนั้นควรถอดเฉพาะตอนทานข้าว หรือใส่ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และมีอายุการใช้งานนานถึง 5-10 ปีโดยประมาณ

    รีเทนเนอร์แบบลวดเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบลวดเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบลวดเหมาะกับวัยรุ่น เนื่องจากเป็นรีเทนเนอร์ที่สามารถเลือกตกแต่งฐานอะคริลิกให้มีลวดลาย หรือเลือกสีสันตามใจชอบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ วัสดุแข็งแรงคงทน ดูแลได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องรีเทนเนอร์แตกหัก จนต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่อีกด้วย
    รีเทนเนอร์แบบลวดเหมาะกับวัยรุ่น เนื่องจากเป็นรีเทนเนอร์ที่สามารถเลือกตกแต่งฐานอะคริลิกให้มีลวดลาย หรือเลือกสีสันตามใจชอบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ได้ วัสดุแข็งแรงคงทน ดูแลได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องรีเทนเนอร์แตกหัก จนต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่อีกด้วย

    ราคารีเทนเนอร์แบบลวด

    ราคารีเทนเนอร์แบบลวด

    ราคารีเทนเนอร์แบบลวดนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 ถึง 3,000 บาทต่อชิ้น โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม
    ราคารีเทนเนอร์แบบลวดนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 ถึง 3,000 บาทต่อชิ้น โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม

  • รีเทนเนอร์ใส
  • รีเทนเนอร์ใส
  • รีเทนเนอร์แบบใส ยิ้มสวยมั่นใจเหมือนไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ ล็อกตำแหน่งฟันได้ดี ให้ฟันเรียงสวยอยู่กับเราไปตลอด โดยมีลักษณะใส ไม่มีส่วนเพดาน พร้อมกับครอบฟันทั้งส่วนด้านใน และด้านนอกทั้งหมด ถ้าหากไม่สังเกตก็จะไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที
    เพื่อฟันที่เรียงตัวสวยอยู่ตลอด เราควรใส่ตามทันตแพทย์แนะนำอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นรีเทนเนอร์ที่สามารถถอดได้ตลอดเวลาเราอาจจะต้องระวังเรื่องการเก็บดูแลรักษาไม่ให้หาย และมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี
    รีเทนเนอร์แบบใส ยิ้มสวยมั่นใจเหมือนไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ ล็อกตำแหน่งฟันได้ดี ให้ฟันเรียงสวยอยู่กับเราไปตลอด โดยมีลักษณะใส ไม่มีส่วนเพดาน พร้อมกับครอบฟันทั้งส่วนด้านใน และด้านนอกทั้งหมด ถ้าหากไม่สังเกตก็จะไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที
    เพื่อฟันที่เรียงตัวสวยอยู่ตลอด เราควรใส่ตามทันตแพทย์แนะนำอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นรีเทนเนอร์ที่สามารถถอดได้ตลอดเวลาเราอาจจะต้องระวังเรื่องการเก็บดูแลรักษาไม่ให้หาย และมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี

    รีเทนเนอร์แบบใสเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบใสเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบใสเหมาะกับวัยทำงาน หรือคนที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ดูสวยงาม บุคลิกที่มั่นใจเวลาพูดคุย เพราะเป็นรีเทนเนอร์ที่มีความใส ให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้สามารถใส่ได้ทั้งในขณะที่ทำงาน หรือออกงานสังคมได้
    รีเทนเนอร์แบบใสเหมาะกับวัยทำงาน หรือคนที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ดูสวยงาม บุคลิกที่มั่นใจเวลาพูดคุย เพราะเป็นรีเทนเนอร์ที่มีความใส ให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้สามารถใส่ได้ทั้งในขณะที่ทำงาน หรือออกงานสังคมได้

    ราคารีเทนเนอร์แบบใส

    ราคารีเทนเนอร์แบบใส

    ราคารีเทนเนอร์แบบใสนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 ถึง 3,500 บาทต่อชิ้น โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม

    ราคารีเทนเนอร์แบบใสนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 ถึง 3,500 บาทต่อชิ้น โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม

    2. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (fixed retainer)

    2. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (fixed retainer)

    รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (fixed retainer) จะเป็นเครื่องมือรีเทนเนอร์ที่ไม่สามารถถอดออกได้ ลดความยุ่งยากในการถอดเข้า-ถอดออก และไม่ต้องกังวลเรื่องการทำหาย โดยจะเหมาะกับบางกรณี (ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน) และมีอายุการใช้งานกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่น ๆ
    รีเทนเนอร์แบบติดแน่น(fixed retainer) จะเป็นเครื่องมือรีเทนเนอร์ที่ไม่สามารถถอดออกได้ ลดความยุ่งยากในการถอดเข้า-ถอดออก และไม่ต้องกังวลเรื่องการทำหาย โดยจะเหมาะกับบางกรณี (ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน) และมีอายุการใช้งานกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่น ๆ

    รีเทนเนอร์แบบติดแน่นเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบติดแน่นเหมาะกับใคร?

    รีเทนเนอร์แบบติดแน่นเหมาะกับเคสฟันที่มีโอกาสเคลื่อนที่สูง เช่นในกลุ่มคนที่เคยมีฟันซ้อนเกมาก หรือเด็กที่ได้รับการจัดฟันที่ทันตแพทย์คาดว่ามีโอกาสในการลืมใส่รีเทนเนอร์สูงจนเสี่ยงฟันล้ม ซึ่งรีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟันล้มได้อย่างดี
    รีเทนเนอร์แบบติดแน่นเหมาะกับเคสฟันที่มีโอกาสเคลื่อนที่สูง เช่นในกลุ่มคนที่เคยมีฟันซ้อนเกมาก หรือเด็กที่ได้รับการจัดฟันที่ทันตแพทย์คาดว่ามีโอกาสในการลืมใส่รีเทนเนอร์สูงจนเสี่ยงฟันล้ม ซึ่งรีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟันล้มได้อย่างดี

    ราคารีเทนเนอร์แบบใส

    ราคารีเทนเนอร์แบบใส

    ราคารีเทนเนอร์แบบติดแน่นนั้นมีราคาต่อชิ้นประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม
    ราคารีเทนเนอร์แบบติดแน่นนั้นมีราคาต่อชิ้นประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป โดยราคาของรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก หรือโรงพยาบาลทันตกรรม

    ข้อแนะนำในการดูแลรีเทนเนอร์

    ข้อแนะนำในการดูแลรีเทนเนอร์

    ข้อแนะนำในการดูแลรีเทนเนอร์

    1. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

    1. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

    เมื่อเราเลือกประเภทรีเทนเนอร์ที่ต้องการแล้ว ควรศึกษาวิธีดูแลรีเทนเนอร์ ข้อควรระวังในการดูและรักษาให้ถูกวิธีตามประเภทรีเทนเนอร์ของเรา เพื่อความสะอาด และสุขอนามัยที่ดี เพื่อให้ฟันสวยอยู่กับเราไปนาน ๆ รวมถึงยิ้มสวยมั่นใจ มีสุขภาพช่องปากที่ดีด้วย

    เมื่อเราเลือกประเภทรีเทนเนอร์ที่ต้องการแล้ว ควรศึกษาวิธีดูแลรีเทนเนอร์ ข้อควรระวังในการดูและรักษาให้ถูกวิธีตามประเภทรีเทนเนอร์ของเรา เพื่อความสะอาด และสุขอนามัยที่ดี เพื่อให้ฟันสวยอยู่กับเราไปนาน ๆ รวมถึงยิ้มสวยมั่นใจ มีสุขภาพช่องปากที่ดีด้วย



  • รีเทนเนอร์แบบถอดได้
  • รีเทนเนอร์แบบถอดได้
  • รีเทนเนอร์แบบถอดได้ คือ รีเทนเนอร์แบบลวด และ รีเทนเนอร์แบบใส จะมีคอนเซ็ปต์ในการดูแลรักษาที่เหมือนกันเลย เพราะเป็นรีเทนเนอร์สามารถใส่และถอดได้สะดวก การดูแลทำความสะอาดง่ายไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เพียงแค่ต้องหมั่นทำความสะอาดรีเทนเนอร์ของเราให้ถูกต้องตามคำแนะนำ
    รีเทนเนอร์แบบถอดได้ คือ รีเทนเนอร์แบบลวด และ รีเทนเนอร์แบบใส จะมีคอนเซ็ปต์ในการดูแลรักษาที่เหมือนกันเลย เพราะเป็นรีเทนเนอร์สามารถใส่และถอดได้สะดวก การดูแลทำความสะอาดง่ายไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เพียงแค่ต้องหมั่นทำความสะอาดรีเทนเนอร์ของเราให้ถูกต้องตามคำแนะนำ

    แบ่งวิธีทำความสะอาดออกเป็น 2 วิธี

    แบ่งวิธีทำความสะอาดออกเป็น 2 วิธี

    วิธีแรก เน้นสุขอนามัย ทำความสะอาดทุกวัน ให้เลือกใช้ ‘สบู่’ โดยเป็นสบู่เหลวหรือก้อนก็ได้ นำมาทำความสะอาดโดยใช้แปรงสีฟันขัดที่รีเทนเนอร์ โดยเน้นส่วนที่อยู่ติดกับเหงือก เพราะส่วนนี้จะมีคราบสะสมติดอยู่(คล้ายกับหินปูน) เสร็จแล้วก็ล้างด้วยน้ำเปล่า แนะนำว่าให้ใช้แปรงสีฟันคนละอันกับที่เราใช้แปรงฟันน้า
    Tips ไม่ใช้ยาสีฟันเด็ดขาด เพราะยาสีฟันอาจจะมีผงเม็ดบีทเล็ก ๆ ที่อาจจะเสียดสี ทำให้รีเทนเนอร์เราสึกได้
    วิธีแรก เน้นสุขอนามัย ทำความสะอาดทุกวัน ให้เลือกใช้ ‘สบู่’ โดยเป็นสบู่เหลวหรือก้อนก็ได้ นำมาทำความสะอาดโดยใช้แปรงสีฟันขัดที่รีเทนเนอร์ โดยเน้นส่วนที่อยู่ติดกับเหงือก เพราะส่วนนี้จะมีคราบสะสมติดอยู่(คล้ายกับหินปูน) เสร็จแล้วก็ล้างด้วยน้ำเปล่า แนะนำว่าให้ใช้แปรงสีฟันคนละอันกับที่เราใช้แปรงฟันน้า
    Tips ไม่ใช้ยาสีฟันเด็ดขาด เพราะยาสีฟันอาจจะมีผงเม็ดบีทเล็ก ๆ ที่อาจจะเสียดสี ทำให้รีเทนเนอร์เราสึกได้
    วิธีที่สอง เน้นประหยัดเวลา ไม่ต้องทำทุกวัน เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด และง่ายที่สุด คือใช้ ‘เม็ดฟู่’ ที่สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป โดยใส่น้ำในแก้วให้ท่วมรีเทนเนอร์ หลังจากนั้นให้ใส่เม็ดฟู่ลงไป โดยเม็ดฟู่จะทำความสะอาดให้เราเอง โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที เราก็สามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ กลับมาปุ๊บรีเทนเนอร์สะอาดปั๊บ พร้อมใช้งานต่อได้เลย ง่ายมาก และไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยด้วย (ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง)
    Tips ห้ามใช้น้ำร้อนในการทำความสะอาด เพราะจะทำให้รีเทนเนอร์บิดเบี้ยวจากความร้อนสูง
    วิธีที่สอง เน้นประหยัดเวลา ไม่ต้องทำทุกวัน เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด และง่ายที่สุด คือใช้ ‘เม็ดฟู่’ ที่สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป โดยใส่น้ำในแก้วให้ท่วมรีเทนเนอร์ หลังจากนั้นให้ใส่เม็ดฟู่ลงไป โดยเม็ดฟู่จะทำความสะอาดให้เราเอง โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที เราก็สามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ กลับมาปุ๊บรีเทนเนอร์สะอาดปั๊บ พร้อมใช้งานต่อได้เลย ง่ายมาก และไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยด้วย (ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง)
    Tips ห้ามใช้น้ำร้อนในการทำความสะอาด เพราะจะทำให้รีเทนเนอร์บิดเบี้ยวจากความร้อนสูง

  • รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
  • รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
  • รีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะต้องอาศัยความใส่ใจในการทำความสะอาดทุกครั้ง เนื่องจาก เครื่องมือติดแน่นอยู่กับฟันเราตลอดเวลาที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ย่อมมีการสะสมของเชื้อแบททีเรียที่เครื่องมือมากกว่าปกติ หากทำความสะอาดไม่ถูกวิธีจะนำไปสู่ คราบหินปูนลามไปจนเหงือกอักเสบ หรือทำให้ฟันผุในอนาคตได้
    รีเทนเนอร์แบบติดแน่นจะต้องอาศัยความใส่ใจในการทำความสะอาดทุกครั้ง เนื่องจาก เครื่องมือติดแน่นอยู่กับฟันเราตลอดเวลาที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ย่อมมีการสะสมของเชื้อแบททีเรียที่เครื่องมือมากกว่าปกติ หากทำความสะอาดไม่ถูกวิธีจะนำไปสู่ คราบหินปูนลามไปจนเหงือกอักเสบ หรือทำให้ฟันผุในอนาคตได้

    วิธีทำความสะอาด

    วิธีทำความสะอาด

  • ร้อยไหมขัดฟันเข้าไประหว่างรีเทนเนอร์และฟันล่าง โดยอาจใช้เข็มร้อยไหมขัดฟันเพื่อช่วยให้ร้อยได้ง่ายขึ้น
  • จับไหมขัดฟันแต่ละข้างแล้วดึงไหมขัดฟันขึ้นและลงระหว่างซี่ฟันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก โดยดึงให้ไหมขัดฟันลงลึกไปถึงบริเวณขอบเหงือกด้วย
  • ผู้ที่มีปัญหาในการใช้ไหมขัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง
  • ทั้งนี้ หลังใช้รีเทนเนอร์แล้วพบว่าเหงือกหรือเนื้อเยื่อภายในช่องปากบวมแดงหรือพบอาการผิดปกติใด ๆ ภายในช่องปาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • ร้อยไหมขัดฟันเข้าไประหว่างรีเทนเนอร์และฟันล่าง โดยอาจใช้เข็มร้อยไหมขัดฟันเพื่อช่วยให้ร้อยได้ง่ายขึ้น
  • จับไหมขัดฟันแต่ละข้างแล้วดึงไหมขัดฟันขึ้นและลงระหว่างซี่ฟันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก โดยดึงให้ไหมขัดฟันลงลึกไปถึงบริเวณขอบเหงือกด้วย
  • ผู้ที่มีปัญหาในการใช้ไหมขัดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกต้อง
  • ทั้งนี้ หลังใช้รีเทนเนอร์แล้วพบว่าเหงือกหรือเนื้อเยื่อภายในช่องปากบวมแดงหรือพบอาการผิดปกติใด ๆ ภายในช่องปาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
  • 2. ตรวจเช็กรีเทนเนอร์บ้าง

    2. ตรวจเช็กรีเทนเนอร์บ้าง

    โดยรีเทนเนอร์แต่ละแบบต้องได้รับการตรวจเช็กสภาพการใช้งานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน-1 ปี หรือตามทันตแพทย์แนะนำ
    โดยรีเทนเนอร์แต่ละแบบต้องได้รับการตรวจเช็กสภาพการใช้งานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน-1 ปี หรือตามทันตแพทย์แนะนำ
    เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันของเรามีผลต่อการทำให้ฟันเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแรงจากลิ้น แรงจากริมฝีปาก แรงจากกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก เช่นการทานอาหาร การพูด มันก็จะมีแรงกระทำจากทุกทางในช่องปากเลย ที่สามารถทำให้ฟันเราอาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งได้
    เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันของเรามีผลต่อการทำให้ฟันเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแรงจากลิ้น แรงจากริมฝีปาก แรงจากกล้ามเนื้อรอบริมฝีปาก เช่นการทานอาหาร การพูด มันก็จะมีแรงกระทำจากทุกทางในช่องปากเลย ที่สามารถทำให้ฟันเราอาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งได้
    หากเราลืมใส่รีเทนเนอร์ หรือไม่ได้ใส่เป็นเวลานาน ก็จะทำให้รีเทนเนอร์ของเราใส่ไม่พอดี รู้สึกปวดขณะใส่ หรือในกรณีที่นานมากก็ไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก อาจจะได้จัดฟันรอบสองก็เป็นได้ครับ
    หากเราลืมใส่รีเทนเนอร์ หรือไม่ได้ใส่เป็นเวลานาน ก็จะทำให้รีเทนเนอร์ของเราใส่ไม่พอดี รู้สึกปวดขณะใส่ หรือในกรณีที่นานมากก็ไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก อาจจะได้จัดฟันรอบสองก็เป็นได้ครับ

    คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับรีเทนเนอร์

    คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับรีเทนเนอร์

    Q : ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์นาน ทำไมถึงปวด?
    A : ฟันอาจจะมีการเคลื่อนตัวจากแรงที่กระทำภายในปาก หาไม่ได้ใส่นานอาจจะทำให้ฟันมีการเคลื่อนตัว หรือขยับเล็กน้อย ทำให้การกลับมาใส่ทำให้ปวดฟันเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่ได้ใส่นานมากๆ ก็จะมีโอกาสที่ไม่สามารถกลับมาใส่ได้อีก
    Q: ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์นาน ทำไมถึงปวด?

    A : ฟันอาจจะมีการเคลื่อนตัวจากแรงที่กระทำภายในปาก หาไม่ได้ใส่นานอาจจะทำให้ฟันมีการเคลื่อนตัว หรือขยับเล็กน้อย ทำให้การกลับมาใส่ทำให้ปวดฟันเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่ได้ใส่นานมากๆ ก็จะมีโอกาสที่ไม่สามารถกลับมาใส่ได้อีก

    Q: ต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต จริงไหม?  
    A : หากคนไข้ต้องการมีฟันที่เรียงสวยงามเหมือนตอนที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ แนะนำ ว่าให้คนไข้ใส่ไปตลอด เท่าที่จะใส่ได้เลย แต่สำหรับคนไข้ส่วนใหญ่ที่ไม่อยากใส่ตลอดเวลา หรือมีความจำเป็นบางอย่าง แนะนำว่าอย่างน้อยที่สุดใน 1 ปี แรกให้ใส่ตลอดเวลา หลังจากสามารถที่จะลดความถี่ในการใส่ได้
    Q: ต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต จริงไหม?
    A : หากคนไข้ต้องการมีฟันที่เรียงสวยงามเหมือนตอนที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ แนะนำ ว่าให้คนไข้ใส่ไปตลอด เท่าที่จะใส่ได้เลย แต่สำหรับคนไข้ส่วนใหญ่ที่ไม่อยากใส่ตลอดเวลา หรือมีความจำเป็นบางอย่าง แนะนำว่าอย่างน้อยที่สุดใน 1 ปี แรกให้ใส่ตลอดเวลา หลังจากสามารถที่จะลดความถี่ในการใส่ได้
    Q : ลวดด้านหน้าของรีเทนเนอร์ควรอยู่ตำแหน่งไหน ?  

    A : โดยปกติแล้วลวดรีเทนเนอร์จะถูกออกแบบให้อยู่หน้าฟัน พาดผ่านตัวฟันให้ตรงกับบริเวณกึ่งกลางฟัน ดังนั้น เมื่อคนไข้ใช้งานรีเทนเนอร์ไปนานสักพักแล้ว เริ่มรู้สึกว่าลวดเริ่มขยับไปอยู่ตรงปลายฟัน จะถือว่าไม่ปกติ ควรนำรีเทนเนอร์มาเช็กว่ามีความผิดปกติหรือชำรุดในส่วนไหนบ้าง

    Q : ลวดด้านหน้าของรีเทนเนอร์ควรอยู่ตำแหน่งไหน ?
    A : A: โดยปกติแล้วลวดรีเทนเนอร์จะถูกออกแบบให้อยู่หน้าฟัน พาดผ่านตัวฟันให้ตรงกับบริเวณกึ่งกลางฟัน ดังนั้น เมื่อคนไข้ใช้งานรีเทนเนอร์ไปนานสักพักแล้ว เริ่มรู้สึกว่าลวดเริ่มขยับไปอยู่ตรงปลายฟัน จะถือว่าไม่ปกติ ควรนำรีเทนเนอร์มาเช็กว่ามีความผิดปกติหรือชำรุดในส่วนไหนบ้าง
    Q :  ไม่ได้จัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์ได้ไหม  
    A : ไม่แนะนำให้ใส่ เนื่องจากถ้าหากเรามีฟันที่เรียงแบบผิดปกติ การทำรีเทนเนอร์หรือใส่รีเทนเนอร์เข้าไปเป็นไปได้ยากมาก อาจจะส่งผลเสียไปที่ฟันได้เลย แต่ถ้าหากคนไข้มีฟันที่เรียงสวยอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นเลยที่จะใส่ เพราะรีเทนเนอร์เป็นการคงตำแหน่งฟัน มีโอกาสน้อยมากที่ฟันจะเคลื่อนไปตำแหน่งที่ไม่ดี
    Q :  ไม่ได้จัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์ได้ไหม
    A : ไม่แนะนำให้ใส่ เนื่องจากถ้าหากเรามีฟันที่เรียงแบบผิดปกติ การทำรีเทนเนอร์หรือใส่รีเทนเนอร์เข้าไปเป็นไปได้ยากมาก อาจจะส่งผลเสียไปที่ฟันได้เลย แต่ถ้าหากคนไข้มีฟันที่เรียงสวยอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นเลยที่จะใส่ เพราะรีเทนเนอร์เป็นการคงตำแหน่งฟัน มีโอกาสน้อยมากที่ฟันจะเคลื่อนไปตำแหน่งที่ไม่ดี

    จอง/ทำนัด รีเทนเนอร์
    ฟรี! รับประกัน 3 เดือน

    จอง/ทำนัด รีเทนเนอร์
    ฟรี! รับประกัน 3 เดือน