การจัดฟัน เป็นการทำทันตกรรมรูปแบบหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาฟันให้เรียงตัวสวยงาม และเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟัน อาจทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลง ไม่กล้าฉีกยิ้ม ทำให้เสียบุคลิกภาพ และขาดความมั่นใจ ซึ่งการจัดฟันสามารถช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันเหยิน ฟันห่าง และฟันซ้อน รวมไปถึงแก้ปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟัน ขนาดฟัน และการสบฟันที่ไม่ปกติได้
ดังนั้น การจัดฟันจึงเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยเรียกความมั่นใจ และรอยยิ้มให้กลับคืนมา ทั้งนี้คลินิกจัดฟันที่ดีต้องมีมาตรฐานตามที่สาธารณสุขกำหนด เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย
การจัดฟัน (Orthodontic) เป็นสาขาหนึ่งในทางทันตกรรมที่ทำการวิเคราะห์ วินัจฉัย และการวางแผนเพื่อป้องกัน รักษา และแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบ หรือเรียงตัวผิดปกติ อาทิ ฟันซ้อน ฟันเก ฟันไม่สบกัน หรือการมีช่องว่างระหว่างฟัน ซึ่งการจัดฟันช่วยให้การเรียงตัวของฟัน และขากรรไกรสัมพันธ์กับใบหน้า ส่งผลให้มีการสบของฟันที่ดีขึ้น ช่วยให้ผู้จัดฟันสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดฟันผุ และลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคเหงือก อีกทั้งการจัดฟันยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ และความมั่นใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฟันที่เรียงกันอย่างสวยงาม ทำให้สามารถฉีกรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจ
สำหรับทันตแพทย์ที่สามารถดำเนินการจัดฟันได้ (Orthodontist) ต้องเป็นทันตแพทย์ที่ได้รับการศึกษาต่อเฉพาะทางด้านการจัดฟัน โดยทันตแพทย์ด้านการจัดฟันต้องมีความรู้ความสามารถทั้งในเรื่องของการวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติของฟัน โดยเฉพาะในเรื่องของการสบกันของฟัน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการจัดฟันควรทำกับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันเท่านั้น เพราะเรื่องของการจัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่ความปลอดภัยในเรื่องของช่องปากควรมาเป็นอันดับแรก
สำหรับรูปแบบของการจัดฟันในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้
นอกจากนี้ การจัดฟันยังสามารถแบ่งออกได้อีก 4 ประเภทตามชนิดของเครื่องมือที่ติดตั้ง ดังนี้
สำหรับคนที่จะเริ่มจัดฟันได้เลือกรูปแบบที่ต้องการได้แล้ว มาดูกันว่าสิ่งที่คนจัดฟันครั้งแรกต้องทำต่อมาคือการเตรียมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน เพราะการจัดฟันนั้นไม่ได้มีค่าใช้จ่ายในช่วงที่ต้องเปลี่ยนยางทุกเดือนหรือในช่วงติดตั้งเครื่องมือเท่านั้น ค่าใช้จ่ายจะเริ่มขึ้นตั้งแต่คนไข้ตกลงที่จะใช้บริการและเริ่มเคลียร์ช่องปาก ดังนี้
– ติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะธรรมดา ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบ หรือโปรโมชั่นการจัดฟันที่คนไข้เลือก
– ติดเครื่องมือจัดฟันแบบดามอน ราคาเริ่มที่ 15,000 บาท
– ติดเครื่องมือจัดฟันแบบเซรามิก ราคาเริ่มที่ 5,000 บาท
– ติดเครื่องมือจัดฟันแบบ AOSC ราคาเริ่มที่ 3,000 บาท
– จัดฟันใส จะได้รับเครื่องมือจัดฟันเป็นชุดตามทันตแพทย์ประเมิน
ราคาทั้งหมดที่กล่าวมาคือค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องมือครั้งแรกเท่านั้น
สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนสุดท้ายนั้นจะต้องทำการจ่ายทุกเดือน หรือตามการนัดพบของทันตแพทย์ เพราะคนไข้ต้องเข้ามาปรับเครื่องมือและเช่นเปลี่ยนยาง ติดตามการรักษา โดยทันตแพทย์จะตรวจการเปลี่ยนแปลงของฟัน นั้นเป็นไปตามแผนการรักษาหรือไม่ และจะต้องจ่ายเงินประมาณ 1,500 บาทจนกว่าจะครบตามโปรโมชั่น หรือแพ็กเกจจัดฟันที่เลือก ถ้าหากเลือกจัดฟันแบบใสก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน และต้องการแก้ไขด้วยการจัดฟัน จำเป็นต้องเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อประเมินและวินิจฉัย โดยปัญหาที่สามารถใช้การจัดฟันแก้ไขได้ มีดังนี้
ลักษณะของฟันกัดเบี้ยว คือ ฟันบนไม่สบพอดีกับฟันล่าง ทำให้ฟันเยื้อง และดูเหลื่อมกัน ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร และการเรียงตัวของฟันที่ไม่สวยงาม จึงสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการจัดฟัน
ในทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะคางยื่น (Prognathism) มีลักษณะฟันล่างยืนออกมาคร่อมฟันบน หรือปลายฟันล่างชนกับปลายฟันบน ทำให้เกิดช่องวางระหว่างกัน ส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด และทำให้เกิดปัญหานอนกัดฟันจนมีปัญหาหน้าฟันสึกกร่อนร่วมด้วย
ในทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะคางยื่น (Prognathism) มีลักษณะฟันล่างยืนออกมาคร่อมฟันบน หรือปลายฟันล่างชนกับปลายฟันบน ทำให้เกิดช่องวางระหว่างกัน ส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด และทำให้เกิดปัญหานอนกัดฟันจนมีปัญหาหน้าฟันสึกกร่อนร่วมด้วย
การจัดฟัน เป็นวิธีการที่ช่วยปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ ทำให้สุขภาพช่องปากมีสุขอนามัยที่ดี การดูแลช่องปากสามารถทำได้ง่าย ลดปัญหาฟันผุ และทำให้ฟันอยู่กับเราได้นานมากยิ่งขึ้น
สาเหตุของฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการเรียงตัวของฟันในแต่ละคนถึงมีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุด้วยกัน ดังนี้
จัดฟันที่ไหนดี วิธีเลือกคลินิกจัดฟัน
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการจัดฟันเป็นครั้งแรก ควรเลือกทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมจัดฟันแห่งประเทศไทย เพื่อให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ขั้นตอนในการจัดฟันนั้นมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
นัดติดตามผล หลังจากใส่รีเทนเนอร์ หรืออุปกรณ์คงสภาพฟันแล้ว ทันตแพทย์จะนัดติดตามผลในทุกๆ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือนตามลำดับ
ข้อดีของการจัดฟัน นอกจากช่วยให้ฟันเรียงตัวกันอย่างสวยงามแล้ว ยังส่งผลดีในอีกหลายๆ เรื่อง ดังนี้
ข้อจำกัดของการจัดฟัน
ข้อจำกัดของการจัดฟัน สำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันควรทราบไว้ เพื่อรับมือกับข้อจำกัดบางประการที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจจัดฟัน โดยมีดังต่อไปนี้
การดูแลความสะอาดของช่องปากหลังจัดฟันเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการจัดฟันในแต่ละครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงต้องดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อลดปัญหาที่ตามมาในอนาคต โดยมีคำแนะนำดังนี้
สำหรับการเลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลสำหรับจัดฟัน ควรศึกษาข้อมูลของแต่ละสถานที่เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้
สำหรับการจัดฟันที่ PLUS Dental Clinic เป็นคลินิกที่ให้บริการการรักษาฟันทุกรูปแบบ เช่น ทันตกรรมจัดฟัน ทำรากฟันเทียม วีเนียร์ ฟอกสีฟัน เป็นต้น โดยมีทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันคอยดูแล รวมถึงวางแผนการรักษาฟัน และสุขภาพช่องปากของทุกคนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนี้
สิ่งสำคัญในการจัดฟัน คือ การเลือกคลินิก และทันตแพทย์จัดฟันเพราะทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาฟันตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษามากที่สุด โดยทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันของ PLUS Dental Clinic เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันที่มีประสบการณ์ สามารถวางแผนการรักษาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม และเรียกคืนความมั่นใจกลับมาสู่คนไข้ทุกคน
#จัดฟัน #จัดฟันราคา #จัดฟันครั้งแรก#จัดฟันที่ไหนดี #ดัดฟัน #ดัดฟันครั้งแรก #ดัดฟันที่ไหนดี
เพราะรอยยิ้มของคุณ ทำให้ทุกๆวันสดใส
และทำให้คุณมั่นใจ ทุกครั้งที่คุณยิ้ม
เราจึงคิดคอร์สจัดฟัน ที่เต็มไปด้วย
คุณภาพการบริการ และมาตรฐานการรักษา