รอยยิ้มมั่นใจเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากมี แต่ถ้าเกิดมีปัญหาต้องสูญเสียฟันไป ฟันมีปัญหา ไม่สามารถรักษาซ่อมแซมกลับมาได้ หรือปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือก โรคปริทันต์ ฯลฯ ส่งผลให้ขาดความมั่นใจเรื่องบุคลิก การใส่ฟันปลอม ก็มีบทบาทเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น อุดช่องว่างระหว่างฟัน ป้องกันไม่ให้ฟันล้ม ไปจนถึงช่วยปรับโครงสร้างขากรรไกรหรือปาก ให้กลับมาทำงานไปอย่างปกติ กลับมาพูดได้อย่างชัดเจน มีบุคลิกที่ดีและมีรอยยิ้มที่มั่นใจได้อีกครั้ง
หลายคนอาจจะสงสัยว่าฟันปลอมมีกี่แบบ ต้องเป็นฟันปลอมแบบทำทีเดียวสำหรับฟันทั้งปากเท่านั้นเลยหรือเปล่า? บอกได้เลยว่า ฟันปลอมในปัจจุบันนี้นั้น มีรูปแบบให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟันปลอมแบบติดแน่น ฟันปลอมแบบถอดได้ ฟันปลอมแบบถาวร หรือฟันปลอมแบบครอบ เป็นต้น
บทความนี้จะพามารู้จักกับฟันปลอมแต่ละประเภท วิธีเลือกให้ตรงกับความต้องการเพื่อรอยยิ้มที่มั่นใจและสามารถกลับมาใช้งานช่องปากให้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมท้ายให้ด้วยคำถามที่พบบ่อยนอกเหนือจากคำถามที่ว่าฟันปลอมมีกี่แบบ อย่างแน่นอน
ฟันปลอม คือ ฟันเทียมที่ถูกสังเคราะห์สร้างขึ้นมาให้มีรูปร่างคล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุด โดยอาศัยความเชี่ยวชาญจากทันตแพทย์ด้านทันตกรรมประดิษฐ์ ส่วนมากแล้วมักทำจากวัสดุประเภทพลาสติก ฟันปลอมแบบโลหะ ฟันปลอมแบบนิ่ม และฟันปลอมแบบอื่นๆ แตกต่างกันไปตามประเภทต่างๆ
การใส่ฟันปลอมนั้นสามารถช่วยได้ทั้งเรื่องสุขภาพปากช่องปาก และความสวยงาม โดยในส่วนของสุขภาพของช่องปากอย่างการใส่ฟันปลอมเพื่ออุดช่องว่างระหว่างฟัน สามารถช่วยปรับโครงสร้างขากรรไกรหรือปากให้กลับมาทำงานได้ปกติ พูดได้ชัดเจน หรือใส่แทนฟันบางซี่ที่ถูกถอนออก และป้องกันไม่ให้ฟันล้ม และในส่วนของความสวยงามนั้นสามารถช่วยให้ทุกคนกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ยิ้มสวยขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ฟันปลอมจึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟัน รวมถึงความสวยงามได้เป็นอย่างดี
ประเภทของฟันปลอมนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ จะใส่ฟันปลอมกี่ซี่ หรือฟันปลอมแบบใดนั้น ทางทันตแพทย์ที่จะเป็นผู้ประเมินให้ว่าควรใส่แบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
โดยหลักๆ แล้วฟันปลอมนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
ฟันปลอมแบบถอดได้ คือ ฟันปลอมที่ไม่ได้ยึดแน่นในปาก สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้ โดยมีลักษณะฟันที่ยึดติดกับฐานหรือตะขอที่ทำจากวัสดุหลายประเภท เช่น ฟันปลอมแบบถอดได้ฐานโลหะ ฟันปลออมแบบฐานพลาสติก หรือ ฟันปลอมฐานแบบนิ่ม เป็นต้น ซึ่งมีแบบหลักๆ 2 แบบย่อย ดังนี้
• ฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน (แบบซี่เดี่ยว) เป็นลักษณะสำหรับผู้ที่ยังมีฟันธรรมชาติในตำแหน่งสำคัญทั้งด้านบนและด้านล่างหลงเหลืออยู่ การใส่ฟันปลอมแบบนี้จึงเป็นการใส่เพียงบางซี่เพื่อทดแทนซี่ที่สูญเสียไป ซึ่งตัวฐานนั้นทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น ฐานพลาสติก ฐานโลหะ ฐานนิ่ม เพื่อให้ใกล้เคียงกับเหงือกธรรมชาติ บางครั้งอาจมีตะขอที่ช่วยยึดเกี่ยวกับตัวฟันด้วย
• ฟันปลอมแบบทั้งปาก เป็นลักษณะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติทั้งหมด โดยจะใช้ฟันปลอมที่สีเหมือนฟันธรรมชาติและมีฐานอะคริลิกที่ลักษณะเหมือนเหงือก
วัสดุที่มักใช้ทำฟันปลอมแบบถอดได้ คือ
• แบบฐานพลาสติก มักใช้ในเคสที่ยังไม่เคยใส่ฟันปลอมมาก่อนเพื่อเป็นระยะเวลาในการปรับตัวว่าสามารถใช้งานได้ถนัดหรือไม่ แถมฟันปลอมประเภทนี้ยังสามารถเบิกประกันสังคมได้อีกด้วย
• แบบฐานนิ่ม ซึ่งเป็นฐานพลาสติกแบบยืดหยุ่น มักใช้ใส่ในกรณีแทนฟันที่หายไปจำนวนน้อยๆ เช่น 1 ซี่ 2 ซี่
• แบบโลหะ มีความทนทานมากกว่าแบบฐานพลาสติก ตัวฟันปลอมมีความบางและแนบกับเหงือกได้มากกว่า
• ถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย
• ใส่ได้ทั้งปากหรือใส่ได้เป็นรายซี่
• ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับฟันปลอมแบบติดแน่นหรือถาวร
• เวลายิ้มอาจจะทำให้สังเกตเห็น หรือเห็นตะขอฟันฟลอมได้ในบางบริเวณ
• ในช่วงระยะแรกที่ใส่ฟันปลอมอาจรู้สึกไม่คุ้นชิน หรือคุ้นเคยกับการใช้งาน ซึ่งอาจทำให้มีความรู้สึกรำคาญ เนื่องจากพูดหรือเคี้ยวอาหารไม่ถนัด เพราะว่าฟันปลอมมีส่วนที่ติดอยู่กับเพดานปาก
ฟันปลอมแบบติดแน่นหรือแบบติดถาวร มีลักษณะยึดแน่นกันในช่องปาก เรียกอีกชื่อว่า ฟันปลอมถาวร โดยฟันปลอมลักษณะนี้จะไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้ ซึ่งฟันปลอมแบบติดแน่นบางชนิดนั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อเน้นความสวยงาม และมีความความเป็นธรรมชาติเหมือนฟันจริง จึงทำให้ฟันปลอมแบบติดแน่นนั้นสามารถนำมาทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้อีกด้วย
ฟันปลอมแบบติดแน่นหรือแบบติดถาวรมีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ได้แก่
• วีเนียร์ เป็นวิธีที่ต้องทำการเคลือบผิวฟันด้วยวัสดุที่มีลักษณะคล้ายเคลือบฟันธรรมชาติ ซึ่งจะมีความบางและสีใกล้เคียงกับฟันมาติดบริเวณด้านหน้าฟัน สามารถช่วยได้ทั้งเรื่องความสวยงาม และป้องกันการทำลายผิวฟัน
• รากฟันเทียม เป็นวิธีที่ต้องทำการฝังรากฟันเทียมลงไปบนกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนรากฟันจริงที่สูญเสียไป พร้อมกับครอบฟันบนรากฟันเทียม
• ครอบฟัน เป็นวิธีที่ต้องกรอฟันธรรมชาติให้เล็กลงเพื่อครอบฟันลงไป มักทำในกรณีที่ยังมีฟันธรรมชาติอยู่แต่ฟันผุหรือแตกมากเกินกว่าจะแก้ไขแบบอื่นโดยทำเพื่อปกป้องเนื้อฟันเดิมที่เหลืออยู่
• สะพานฟัน มีลักษณะคล้ายการครอบฟันแต่มักทำในกรณีที่ยังสูญเสียฟันธรรมชาติไปสัก 1 – 2 ซี่ แล้วแต่ไม่อยากใส่ฟันปลอมแบบถอดออกได้ โดยต้องกรอฟันธรรมชาติข้างๆ ให้เล็กลง แล้วใช้ฟันซี่นั้นยึดเป็นสะพานฟันของซี่ที่ถูกถอนออกไป
วัสดุที่มักใช้ทำฟันปลอมแบบติดแน่นหรือแบบติดถาวร คือ
• แบบพลาสติกทั้งซี่ เป็นฟันปลอมที่ใช้ใส่ชั่วคราวหรือรอให้แผลจากการถอนฟันหายดี
• แบบโลหะทั้งซี่ มักใส่ในตำแหน่งบดเคี้ยว
• แบบผสม เช่น เซรามิก เป็นฟันปลอมที่ใช้ในตำแหน่งฟันหน้าเน้นความสวยงามเป็นธรรมชาติที่สุด
• มีความสวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
• แข็งแรงทนทานไม่เปราะหักง่าย
• การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพเทียบเท่าฟันธรรมชาติ
• ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ
• หลุดยาก ติดแน่นในช่องปาก
การทำฟันปลอมทุกๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันปลอมแบบติดแน่น หรือฟันปลอมแบบถอดได้ ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนฟันที่มีปัญหาหรือฟันที่สูญเสียไปทั้งสิ้น ซึ่งมีขั้นตอนการทำ ดังนี้
• เข้าพบทันตแพทย์ ตรวจสอบสภาพช่องปากโดยรวม เพื่อวิเคราะห์ว่าควรทำฟันปลอมแบบไหน
• ตรวจดูสุขภาพขากรรไกร และเอกซเรย์เพื่อดูการเรียงตัวของฟัน
• พิมพ์ช่องปากเพื่อทำการสร้างแบบจำลองฟันในช่องปากของคนไข้
• สร้างฟันปลอมชั่วคราวเพื่อทดลองใส่ว่ามีการบดเคี้ยว การสบฟันเป็นอย่างไร
• ปรับเปลี่ยนให้พอดีเพื่อให้มีความเหมาะสมกับฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปมากที่สุดทั้งรูปร่าง ขนาด และสีของตัวฟัน
ในบางกรณีนั้น การใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ อาจมีช่วงที่ใส่ไม่แน่นดี ทางทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใส่กาวสำหรับติดฟันปลอมเพิ่มเติมเพื่อให้ใส่ได้แน่นพอดีขึ้นขณะสวมใส่ โดยมีวิธีการ ดังนี้
1.ทำความสะอาดฟันปลอมและเช็ดให้แห้งก่อนใส่
2.บีบครีมเล็กน้อยบริเวณพื้นฟันที่ติดกับเหงือก
3.ทำความสะอาดช่องปากก่อนใส่
4.วางฟันปลอมให้ถูกตำแหน่ง กดให้แน่นแล้วกัดตัวฟันกับเหงือกให้แน่นประมาณ 3 วินาที
ในการตัดสินใจว่าควรใส่ฟันปลอมหรือไม่นั้น ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบฟันก่อนว่าเข้าข่ายต้องใช้ฟันปลอมเป็นแนวทางรักษา หรือมีข้อจำกัด เช่น อายุ ตั้งครรภ์ สุขภาพกระดูกขากรรไกร ฯลฯ หรือไม่ ซึ่งมีเกณฑ์พิจารณาเบื้องต้น ดังนี้
• คนที่มีปัญหาฟันแตก ฟันบิ่น หรือรูปร่างฟันผิดปกติ
◦ ฟันปลอมที่เหมาะกับปัญหาฟันลักษณะนี้ คือ ฟันปลอมแบบติดแน่นหรือแบบติดถาวร เพราะการทำฟันปลอมแบบติดแน่นจะส่งผลดีกว่าทั้งในเรื่องของการใช้งานที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงฟันธรรมชาติ ฟันมีความแข็งแรงทนทานไม่เปราะหักง่าย อีกทั้งยังเป็นการปกป้องเนื้อฟันเดิมที่มีอยู่ เช่น การครอบฟัน หรือการทำวีเนียร์ ที่เป็นการปิดแผ่นเคลือบฟันลงไปบริเวณผิวหน้าฟันให้มีความสวยงาม
• คนที่สูญเสียฟันแท้ไปแล้ว
◦ ฟันปลอมที่เหมาะกับปัญหาฟันลักษณะนี้ คือ ฟันปลอมแบบถอดได้ซึ่งอาจจะเลือกเป็นการถอดได้ทั้งปากบางส่วน เพราะใช้งานได้สะดวกสบายมีฐานฟันปลอมหลายวัสดุให้เลือก สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดง่าย ราคาถูก มีความใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติและไม่ต้องกรอฟันให้เสียเนื้อฟันเพิ่มเติม
ราคาของฟันปลอมสำหรับการใส่นั้น จะขึ้นอยู่กับประเภทที่ใช้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• ฟันปลอมแบบถอดได้ (ทั้งปาก) ราคา 30,000 บาท
• ฟันปลอมแบบถอดได้ ฐานโลหะ (RPD) ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท
• ยึดครอบฟันชั่วคราว ราคา 500 บาท / ซี่
• ยึดครอบฟันถาวร ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท
ซึ่ง PLUS Dental Clinic ก็เป็นคลินิกทันตกรรมที่มีฟันปลอมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงบริการทันตกรรมให้เลือกอย่างหลากหลายในราคาที่เข้าถึงได้ มีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ยินดีแนะนำ ให้บริการคำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใส่ฟันปลอม หรือเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับทันตกรรมอย่างเต็มที่
โดยส่วนมากฟันปลอมมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลและพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
การใส่ฟันปลอมในระยะแรกอาจมีความเจ็บและระคายเคืองบ้างเนื่องจากยังไม่ชิน แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการดังกล่าวจะดีขึ้นและสามารถหายไปได้เอง
การใส่ฟันปลอมในช่วงแรกหากไม่ชินในการปรับรูปปาก อาจทำให้ออกเสียงไม่ชัดบ้าง แต่เมื่อใส่จนชิน มีการปรับรูปแบบในการพูดให้เข้ากับการใส่ฟันปลอมแล้ว ก็จะออกเสียงได้อย่างปกติ
ขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นกำลังใส่ฟันปลอมประเภทใด หากใส่ที่ครอบฟันหรือสะพานฟัน ก็สามารถจัดฟันได้ตามปกติ แต่ถ้าหากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ ทันตแพทย์จะทำการแขวนฟันปลอมซี่ใหม่ที่ทำไว้กับเครื่องมือจัดฟัน
ขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นกำลังใส่ฟันปลอมประเภทใด หากใส่ที่ครอบฟันหรือสะพานฟัน ก็สามารถจัดฟันได้ตามปกติ แต่ถ้าหากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ ทันตแพทย์จะทำการแขวนฟันปลอมซี่ใหม่ที่ทำไว้กับเครื่องมือจัดฟัน
สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพฟัน เช่น รูปร่างฟันผิดปกติ ฟันแตกหรือหัก เป็นเหตุให้ต้องสูญเสียฟันไปนั้น การติดฟันปลอมจะช่วยให้กลับมาใช้ฟันได้ดีอย่างเดิม ทั้งประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวหรือการรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม การรู้ว่าฟันปลอมมีกี่แบบ และแบบไหนที่เหมาะกับเรา รวมถึงวิธีการดูแลรักษา ก่อนที่จะตัดสินใจพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการใส่ฟันปลอมนั้น ก็จะช่วยให้เข้าใจแนวทางการรักษาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ปรับตัว ฟื้นฟูได้ไว และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข นำรอยยิ้มที่สดใสกลับคืนมา