ทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “Smile is the best medicine.” หรือถ้าจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้น รอยยิ้มนั้นถือว่าเป็นยาชั้นดีของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นยาวิตามินเพิ่มความสดชื่นในช่วงเวลาเริ่มต้นของวัน การยิ้มให้กับตัวเอง หรือยิ้มทักทายคนรู้จัก ก็เป็นการส่งต่อพลังบวกที่จะช่วยให้เราอารมณ์ดี มีพลังงานดีๆ ไปตลอดทั้งวัน หรือแม้ว่าจะเป็นเวลาที่ไม่ราบรื่น รอยยิ้มก็เป็นยารักษาจิตใจ ส่งพลังให้ตัวเองยิ้มสู้กับปัญหาหรือที่ต้องเผชิญได้เช่นกัน
นอกจากจะเป็นยาส่งพลังใจแล้ว รอยยิ้มยังเป็นเครื่องสำอางค์ธรรมชาติที่ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศใด ไม่มั่นใจในรอยยิ้มเพราะฟันไม่สวย ไม่กล้ายิ้มเพราะกำลังจัดฟัน แต่เชื่อเถอะว่า รอยยิ้มจากความมั่นใจนั้นจะช่วยให้เขาหรือเธอนั้นดูดี เปล่งประกาย เฉิดฉายจับใจคนที่พบเห็นได้แน่นอน
สำหรับวัยรุ่นวัยใส วัยค้นหาตัวเองที่เขินอาย อยากจะยิ้มแต่ก็ไม่มั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะยิ้มยังไงให้สวย หล่อ หรือออกมาดูดี ก็ไม่ต้องกังวลไป บทความนี้จะมาช่วยแนะนำ ตั้งแต่วิธีการฝึกยิ้ม ไปจนถึงการทำยังไงให้ยิ้มสวยๆ ได้พร้อมโพสท์ท่าเผื่อได้ถ่ายรูปลง Facebook หรือ Instagram แบบจัดหนักจัดเต็มเลย!
ยิ้มให้ตัวเอง ฝึกฝนและเตรียมตัวหน้ากระจก เพื่อสร้างความมั่นใจ
สิ่งแรกที่จะสร้างความมั่นใจได้ คือ ตัวเราเอง ซึ่งวิธีเริ่มต้นที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่ารอยยิ้มแบบไหนที่ดูดี คือ การสังเกตตัวเองในกระจกช่วงหลังแปรงฟันในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แนะนำ เพราะใบหน้าของเราจะลดความบวมลงในตอนที่ตื่นนอนพอดี และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความมั่นใจอีกด้วย เมื่อเริ่มสังเกตตัวเองในกระจกแล้ว มาลองดูวิธีเหล่านี้ เพื่อฝึกฝนให้ตัวเองรู้ว่าต้องยิ้มยังไงถึงจะมั่นใจและมีเสน่ห์กันเถอะ
หาแบบรอยยิ้มที่ชอบ
วิธีนี้ใช้ได้ผลดีสำหรับคนที่นึกไม่ออกว่ารอยยิ้มของตัวเองควรเป็นอย่างไร การหารอยยิ้มจากบุคคลมีชื่อเสียงที่ชื่นชอบ อาจจะให้แนวทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าลองยิ้มแล้วไม่เหมือนกับต้นแบบที่หามา ก็อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะบางปัจจัย เช่น ลักษณะริมฝีปาก หรือ ลักษณะฟัน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน ส่งผลให้ยิ้มยังไงก็ไม่สวยอย่างที่ต้องการ แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป ถ้าเราลองคิดอีกมุมหนึ่ง การที่ไม่ยิ้มยังไงก็ไม่สวยเหมือนต้นแบบนั้น ก็ทำให้รู้ว่ารอยยิ้มบางลักษณะก็ไ่ม่ได้เหมาะกับทุกคน ดังนั้น ลองเปลี่ยนแบบรอยยิ้มใหม่ หรือดัดแปลงให้เข้ากับตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำได้เสมอ
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า
เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองอยากยิ้มได้แบบไหน ขั้นต่อมา คือ การฝึกยังไงให้ยิ้มได้สวยอย่างที่ต้องการ บางครั้งเราพยายามยิ้มมากจนหน้าเกร็งไปหมด ดังนั้น สิ่งที่ควรนึกถึงไว้เสมอ คือ ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าเข้าไว้ เราต้องไม่รู้สึกเกร็งตรงส่วนไหนของใบหน้า ซึ่งเราสามารถใช้วิธีบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อแก้ปัญหานี้ได้
เมื่อใบหน้าผ่อนคลายแล้ว เราก็จะสามารถขยับใบหน้า รวมถึงริมฝีปากของเราในการยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
พูดคำว่า Money ขณะที่ยิ้ม
หลายๆ คนเมื่อฝึกขยับรูปปากเพื่อยิ้ม จะเผลอเป็นยิงฟันแทนแยกเขี้ยวอย่างไม่เป็นธรรมชาติซะงั้นไป เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้เราขยับปากเป็นธรรมชาติในตอนยิ้มได้ คือ การพูดคำว่า “Money” (มัน-นี่) แบบไม่มีเสียง แล้วค้างเอาไว้ที่คำว่า -ney (นี่) ลักษณะปากของเราก็จะใกล้เคียงกับการยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ คำว่า “Money” ยังเป็นคำที่พูดแล้ว กล้ามเนื้อใบหน้าผ่อนคลายกว่าคำว่า “Cheese” (ชีส) อีกด้วย
นึกถึงเรื่องที่ทำให้ยิ้ม
เมื่อขยับริมฝีปากได้แล้ว ถึงเวลาสร้างความรู้สึกให้ตัวเองยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนวิธีสร้างความรู้สึกนั้น ให้ลองนึกถึงเรื่องราว เหตุการณ์ หรือแม้กระทั่ง คน สัตว์ สิ่งของ หรืออะไรก็ได้ ที่ทำให้เรามีความสุข แบบกลับมานึกถึงก็ยังฟินในขณะที่ยิ้ม เพราะความรู้สึกมีความสุข ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ว่าคนนั้นจะมีฟันเรียงตัวเป็นระเบียบ หรือจะเป็นคนที่จัดฟันอยู่ ก็สามารถยิ้มได้อย่างที่ต้องการ
ยิ้มด้วยตา
การยิ้มลักษณะนี้ดูจะยากและนามธรรมไปหน่อย แต่ก็เกี่ยวข้องกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและการนึกถึงความสุขขณะยิ้มเช่นกัน เพราะหากใบหน้าของเราผ่อนคลายขณะยิ้มแล้วนั้น เราก็จะสามารถส่งรอยยิ้มของเราไปถึงดวงตาได้แน่นอน อีกทั้งหากเรายิ้มด้วยตาได้ ไม่ว่ายังไงเราก็จะสามารถส่งต่อความรู้สึกมีความสุขได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าลักษณะฟันของเราจะไม่สวยจนเสียความมั่นใจไป
ฝึกยิ้มให้หลากหลาย
เมื่อมาถึงหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มั่นใจหรือไม่มั่นใจ มีลักษณะฟันเรียงตัวเป็นระเบียบหรือคนที่จัดฟัน ก็คงจะได้วิธีการฝึกยิ้มเบื้องต้นไปบ้างแล้ว ต่อมาลองเปลี่ยนลุครอยยิ้มตัวเองด้วยการฝึกยิ้มให้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบยิ้มเม้มปาก ก็ลองยิ้มกว้างให้เห็นฟันดูบ้าง หรือใครที่ยิ้มกว้างเห็นฟันอยู่แล้ว ก็ลองยิ้มตาหยีแสดงความสุขแบบสุดๆ ไปเลย ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มที่หลากหลาย ไม่ว่าใครมองเห็นก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเราได้แน่นอน
สังเกตรอยยิ้มตัวเอง
หัวข้อนี้จะมาแนะนำวิธีการสังเกตรอยยิ้มเพิ่มเติมสำหรับคนที่เริ่มยิ้มได้โดยไม่รู้สึกประหม่าแล้ว หากเราอยากรู้ว่าจะยิ้มยังไงให้สวยและมีเสน่ห์นั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การสังเกตรูปริมฝีปากของตัวเอง เพราะสิ่งนี้มีผลกับรอยยิ้มของเราเช่นกัน ดังนั้น การเปลี่ยนวิธีการยิ้มเล็กๆ น้อยๆ ก็จะช่วยสร้างความแตกต่างได้ เช่น คนที่มีริมฝีปากบาง เมื่อยิ้มกว้าง จะสามารถมองเห็นฟันได้เยอะกว่าคนที่มีลักษณะริมฝีปากแบบอื่น ทั้งที่ยิ้มในแบบเดียวกัน ดังนั้น หากคนที่มีริมฝีปากบางไม่ต้องการยิ้มให้เห็นฟันมากจนเกินไป อาจจะต้องระมัดระวังหรือเลี่ยงการยิ้มกว้าง เป็นการยิ้มแบบอื่นแทน
หมั่นดูแลช่องปากของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
การพยายามฝึกยิ้มจะกลายเป็นหมดความหมายไปทันที หากเราเพิกเฉยสุขภาพและความสวยงามของช่องปากของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังทานอาหารหรือของว่างเสร็จ หมั่นเช็กเศษอาหารตามซอกฟัน หรือทำความสะอาดด้วยการบ้วนปากหลังมื้ออาหาร เพื่อลดเศษอาหารหรือกลิ่นอาหารที่อาจมีตกค้าง และเพื่อความมั่นใจสูงสุด เราควรแปรงฟันให้ถูกวิธี และหมั่นตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเป็นอย่างน้อย เพื่อรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง
ยิ้มให้กับคนอื่น รวมไอเดียท่าโพสท์ เมื่อคนขี้อายต้องถ่ายรูป ที่จะช่วยให้เฉิดฉาย เปล่งประกายอย่างมั่นใจ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่รอยยิ้มมีความสำคัญในชีวิตประจำวัน คือ การถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นเซลฟี่ หรือถ่ายรูปรวมกับเพื่อนๆ เพื่ออัปโหลดขึ้นโซเชียล บทความในส่วนนี้ก็จะมาแนะนำควรโพสท์ท่ายังไงไปพร้อมๆ กับยิ้มให้สวยหล่อ เพื่อให้ดูหลากหลายและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ปล่อยตัวสบายๆ ผ่อนคลาย
วิธีการง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ที่ใช้ได้กับทุกอย่าง คือ การปล่อยตัวสบายๆ หากรู้ว่าควรจะต้องปล่อยตัว ไม่เกร็ง แต่ยังรู้สึกประหม่า แนะนำวิธีผ่อนคลายด้วยการให้หายใจเข้าให้ลึกๆ และหายใจออกช้าๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง ไม่มีอะไรน่าประหม่า การผ่อนคลายและเป็นตัวเราคือสิ่งที่ดีที่สุด และจะได้ภาพเราในแบบที่ดีที่สุดกว่าการไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างแน่นอน
ลองยิ้มและเล่นกับผมตัวเอง
ข้อแนะนำแรกสำหรับการโพสท์ถ่ายรูป หากไม่กล้าออกท่าทาง ไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ที่ไหนดี เส้นผมตัวเองคือสิ่งที่ใช้ได้ ไม่ว่าคุณจะไว้ผมสั้นหรือผมยาว ลองหาท่าโพสท์ที่เล่นกับผมตัวเอง ไม่ว่าจะท่าสางผม หรือ เอามือจับผมข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้ จากนั้นก็ลองบิดลำตัว เอียงตัวซ้ายเอียงตัวขวา เอี้ยวหาของบ้างอะไรบ้าง หาท่าทางให้เข้ากับท่าเล่นกับผมตัวเองซักหน่อย เท่านี้ก็ได้ท่าโพสท์มากกว่าหนึ่งท่าแล้ว
ยิ้มพลางหยิบของแถวนั้นมาเล่นประกอบท่าโพสท์
สำหรับคนที่ลองเอามือเล่นผมตัวเองแล้วก็ยังรู้สึกไม่ไหว ลองเปลี่ยนเป็นเล่นอย่างอื่นแทน มีหนังสือหยิบหนังสือ มีโทรศัพท์มือถือก็หยิบมาแกล้งๆ เล่น มีกล้องฟิล์มเก๋ๆ ก็หยิบมาโพสท์ท่า หรือจะใช้มือจับแว่นกันแดดที่สวมอยู่ ก็สามารถเพิ่มความเก๋ได้เช่นกัน
ลองฉีกยิ้มพร้อมทำตัวขี้เล่น ไม่ต้องห่วงภาพลักษณ์
สำหรับใครที่พยายามเก็บอาการ ไม่ว่าจะยิ้มหวานๆ หรือ เหยียดริมฝีปากเบาๆ แล้วยังรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง การฉีกยิ้มสดใส ทำตัวขี้เล่น ชูแขน หรือเหยียดขาตามสบายอาจจะเป็นสายของเรามากกว่า โดยเฉพาะคนจัดฟันที่ไม่สามารถยิ้มแบบเม้มริมฝึปากได้ เลยมักยิ้มกว้างและเห็นฟันอยู่ตลอด ลองมาทางนี้ดูก็ไม่เสียหาย เพื่อความสดใสแถมยังมีเสน่ห์ไปในตัวอีกด้วย
ยิ้มเบาๆ ทำทีเผลอ ไม่สนใจกล้อง
สำหรับคนที่รู้ว่าทำยังไงถึงจะยิ้มให้สวยหล่อ สามารถยิ้มทักทายเพื่อนฝูงได้แล้ว แต่ยังเขินอาย ไม่สามารถสบตากับเลนส์กล้องได้ ก็ไม่ต้องมองกล้องซะเลย แกล้งๆ เอียงหน้าหันข้าง ทำเป็นไม่สนใจกล้อง แสดงท่าทางเกือบจะทีเผลอพร้อมกับรอยยิ้มของเรา ก็ช่วยให้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ยิ้มในขณะแอคท่าเดิน
สำหรับคนที่การยืนโพสท์นิ่งๆ ไม่ใช่คำตอบ ก็เปลี่ยนเป็นลองขยับตัวได้เลย ลองเดินเข้าหากล้องพร้อมกับยิ้ม จะได้ท่าที่ดูไม่เกร็งหรือไม่ฝืน ได้ท่าโพสท์หลากหลายและดูเป็นธรรมชาติแน่นอน
ยิ้มและโพสท์ท่าในแบบตัวของตัวเอง
ข้อสุดท้ายที่สำคัญ คือ การยิ้มและโพสท์ท่าในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง คำแนะนำต่างๆ ในต้นบทความนั้นจะช่วยให้เรามองเห็นแนวทางที่หลากหลายมากขึ้นในการโพสท์ท่า แต่จะออกมาสวยและมีเสน่ห์ไม่ได้เลย หากเราขาดความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น ไม่ว่าจะโพสท์ท่าไหน ขอให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองไว้จะดีที่สุด
วิธีที่จะยิ้มยังไงให้สวยและมีเสน่ห์ ที่ไม่ว่าจะเป็นคนฟันสวย ฟันไม่สวย หรือจัดฟันอยู่ ก็สามารถนำไปฝึกยิ้มได้ เริ่มต้นได้ด้วยการฝึกยิ้มกับตัวเองหน้ากระจก เพื่อให้รู้มุมหน้าและลักษณะรอยยิ้มที่มั่นใจ อีกทั้งการถ่ายรูป ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะได้บริหารรอยยิ้มสวยๆ ของเรา สำหรับคนที่ยิ้มสวยแล้ว แต่ยังโพสท์ท่าไม่เป็น สามารถค้นหาตัวเองได้ด้วยการลองโพสท์ท่าที่หลากหลาย เพื่อให้ค้นพบท่าทางที่เราสบายใจและเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด