หลายๆ คนที่จำเป็นต้องสวมใส่ฟันปลอมแล้วมีความต้องการหรือความจำเป็นที่จะต้องจัดฟันเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากหรือเพื่อความสวยงาม อาจมีข้อสงสัยและความกังวลว่าหากใส่ฟันปลอมจะจัดฟันได้ไหม บทความนี้จะพามาหาคำตอบเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส่ฟันปลอมกัน ไปดูกันว่าใส่ฟันปลอมแบบไหนจัดฟันแบบใดได้บ้าง จะต้องทำอะไรเป็นพิเศษไหม มีขั้นตอน และวิธีการดูแลอย่างไร พร้อมแนะนำค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสำหรับคนใส่ฟันปลอม รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเข้าใจกระบวนการมากขึ้นแน่นอน
ใส่ฟันปลอมแล้วจัดฟันได้หรือไม่?
ใส่ฟันปลอมจัดฟันได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น เหมาะกับการจัดฟันเฉพาะบางประเภทตามชนิดของฟันปลอมที่สวมใส่ โดยรูปแบบของฟันปลอมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ฟันปลอมแบบถอดได้และฟันปลอมแบบติดแน่น และฟันปลอมแบบติดแน่นยังสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น แบบครอบฟัน แบบสะพานฟัน และแบบรากเทียม โดยหากเป็นจัดฟันแบบใส่ฟันปลอมนั้น คนไข้อาจจะต้องเข้าพบทันตแพทย์ก่อนการรักษา เพื่อขอคำแนะนำและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
ใส่ฟันปลอมแต่ละแบบสามารถจัดฟันรูปแบบไหนได้บ้าง
การจัดฟัน คือ การจัดเรียงฟันใหม่โดยใช้เครื่องมือทางด้านทันตกรรม ซึ่งจะมีการขยับฟันให้เคลื่อนที่ ช่วยให้ฟันเรียงตัวมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดฟันนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น
แต่สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอมและต้องการจัดฟัน จำเป็นต้องพูดคุยปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อหารูปแบบการจัดฟันที่เหมาะสม พร้อมทั้งดูรูปแบบของฟันปลอมที่ใส่อยู่ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้
1. ใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
ฟันปลอมแบบถอดได้ คือ ฟันปลอมที่ใช้ตะขอยึดเกาะบริเวณตัวฟันปลอมกับฐานของฟันปลอม ทำให้สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และยังพกพาได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นหากใส่ฟันปลอมแบบถอดก็สามารถจัดฟันได้ทุกรูปแบบ แต่เนื่องจากการจัดฟันจะเกิดการเคลื่อนฟัน ดังนั้น แนวทางการรักษาอาจต้องมีการถอดฟันปลอมของคนไข้ออกมาก่อน และนำแบร็คเก็ตติดบนซี่ฟันปลอม จากนั้นนำฟันปลอมใส่กลับไปที่เดิม และทำการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสต่อไป สำหรับฟันซี่หน้า ทันตแพทย์อาจแขวนซี่ฟันปลอมไว้ เพื่อให้ฟันยังดูสวยงาม
2. ใส่ฟันปลอมแบบติดแน่น
ฟันปลอมแบบติดแน่น คือ ฟันปลอมที่ยึดและฝังอยู่ภายในช่องปากของคนไข้ เพื่อทดแทนฟันจริงที่สูญเสียไป โดยใช้ฟันธรรมชาติข้างเคียงและช่องว่างภายในช่องปากเป็นหลักยึด ถือเป็นฟันปลอมรูปแบบที่คนไข้ไม่สามารถถอดออกมา หรือทำความสะอาดเองได้ ในกรณีที่ต้องการจัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความถนัดเฉพาะทาง โดยวิธีการจัดฟันจะแตกต่างกันออกไปตามฟันปลอมติดแน่นแต่ละรูปแบบ ดังนี้
- ใส่รากฟันเทียม
การใส่ฟันปลอมแบบรากฟันเทียม คือ การใส่ฟันปลอมที่สร้างรากเทียมเลียนแบบรากฟันธรรมชาติ เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป ข้อดีเป็นฟันปลอมที่สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด สามารถเคี้ยวอาหารได้สะดวก และมีความมั่นใจขึ้น แต่เนื่องจากรากฟันเทียมจะไม่สามารถเคลื่อนที่ด้วยกันการจัดฟันได้เหมือนกับฟันธรรมชาติ ทำให้ทันตแพทย์ไม่สามารถจัดฟันในตำแหน่งที่มีรากฟันเทียมได้ แต่อาจพิจารณาใช้รากฟันเทียมเป็นแกนหลักยึดในการจัดฟัน เพื่อดึงฟันซี่อื่นๆ ให้เข้าที่แทนตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น การจะจัดฟันในตำแหน่งที่เป็นรากฟันเทียมจำเป็นต้องได้รับการประเมินและวางแผนจากทันตแพทย์ร่วมด้วยว่าควรจัดฟันออกมาในรูปแบบใด
- ใส่ที่ครอบฟัน
การใส่ที่ครอบฟันถือเป็นอีกประเภทหนึ่งของฟันปลอมติดแน่น สามารถจัดฟันได้ทุกรูปแบบ แต่เนื่องจากพื้นผิวที่ครอบฟันนั้นไม่เหมือนกับพื้นผิวฟันตามธรรมชาติ การจัดฟันแบบโลหะหรือการจัดฟันแบบใส่แบร็คเก็ตจึงอาจมีความซับซ้อนมากกว่าปกติและต้องอาศัยความมีประสบการณ์ของทันตแพทย์ รวมถึงอาจมีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาแบบพิเศษที่จะช่วยยึดแบร็คเก็ตไว้กับพื้นผิวที่ครอบฟัน นอกจากนั้น ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจต้องประเมินโอกาสที่ครอบฟันจะเสียหายก่อนจัดฟันอีกด้วย
หลังจัดฟันแบบใส่ฟันปลอมแบบครอบฟันแล้ว อาจต้องที่ครอบฟัน เพราะการจัดฟันอาจทำให้ขนาดวัสดุในการครอบฟันเปลี่ยนไป หรือการสบฟันมีการเปลี่ยนตำแหน่ง ภายหลังการจัดฟันจึงต้องเปลี่ยนครอบฟันด้วย
- ใส่สะพานฟัน
การใส่สะพานฟันก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการใส่ฟันปลอมแบบติดแน่น ดังนั้น จะต้องให้ทันตแพทย์พิจารณาเป็นกรณีไปว่าจะสามารถจัดฟันรูปแบบไหนได้บ้าง โดยส่วนใหญ่มักจะต้องตัดสะพานฟันออกก่อนจัดฟัน และเมื่อจัดฟันเสร็จก็จะต้องผ่านการประเมินและวางแผนจากทันตแพทย์ด้วยว่าจะทำอย่างไรกับช่องว่างของการใส่ฟันปลอมนั้นต่อไป
ขั้นตอนการจัดฟันสำหรับคนที่ใส่ฟันปลอม
การจัดฟันแบบใส่ฟันปลอมนั้นมีหลายขั้นตอน ที่สำคัญคือการเข้ารับคำปรึกษาวินิจฉัยจากทันตแพทย์เพื่อวางแผนที่เหมาะสมกับสุขภาพช่องปากฟันของแต่ละคน นอกจากเพื่อให้ได้รูปแบบการจัดฟันที่สามารถเข้ากับการใส่ฟันปลอมแต่ละแบบแล้ว ยังส่งผลถึงการเลือกเครื่องมือและวิธีการรักษาที่ปลอดภัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การจัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
1. เข้าปรึกษาทันตแพทย์
การเข้าพบทันตแพทย์เป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มจัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยรูปแบบการจัดฟันที่เหมาะสม หาปัญหาและความจำเป็นต่างๆ ของการจัดฟัน รวมไปถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับการจัดฟันและการใส่ฟันปลอมของคนไข้ จากนั้นจึงวางแผนการรักษาต่อไป ในขั้นตอนของการปรึกษาทันตแพทย์ก่อนการจัดฟัน สามารถปรึกษาทั้งในเรื่องของคำแนะนำ ข้อปฏิบัติในการจัดฟัน การดูแลรักษา ข้อควรระวัง ไปจนถึงประกันและค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการบริการทางทันตกรรมด้วยเช่นกัน
2. เอกซเรย์ และพิมพ์แบบจำลองฟัน
ในการวางแผนก่อนการจัดฟัน ทันตแพทย์จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากการเอกซเรย์ และการพิมพ์ฟัน ที่เป็นการสร้างแบบจำลองฟันของคนไข้ เพื่อดูรูปแบบการจัดเรียงตัวของฟัน การสบกันของฟัน โครงสร้างของฟัน ไปจนถึงรูปร่างของขากรรไกร
3. เคลียร์ช่องปาก
ก่อนการเริ่มจัดฟันจะต้องมีการเคลียร์ช่องปากเพื่อความสะดวกต่อการจัดฟัน เช่น การขูดหินปูน ถอนฟัน อุดฟัน ในกรณีของการใส่ฟันปลอมอาจมีการถอดฟันปลอมออกเพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับการจัดฟัน
4. ติดเครื่องมือจัดฟัน
ในขั้นตอนการใส่เครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะทำการติดเครื่องมือจัดฟันตามรูปแบบที่วางแผนไว้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เครื่องมือจึงจะเข้าที่
5. เข้าพบทันตแพทย์ตามนัดหมาย
หลังจากเริ่มใส่เครื่องมือจัดฟันจะต้องมีการนัดหมายพบทันตแพทย์ในทุกๆ เดือนเพื่อมาปรับเครื่องมือจัดฟันและติดตามผลความคืบหน้าของการจัดฟัน นอกจากนี้ยังเป็นการนัดหมายเพื่อให้คำแนะนำในการดูแลฟันในระยะต่างๆ ของการจัดฟันให้เหมาะสมอีกด้วย
วิธีการดูแลรักษาฟันปลอมหลังใส่เครื่องมือจัดฟันแล้ว
ภายหลังการติดเครื่องมือจัดฟัน สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอมทั้งแบบถอดได้ หรือติดแน่น จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันสามารถส่งผลต่ออายุการใช้งาน หรือทำให้ฟันปลอมเกิดความเสียหายได้ โดยวิธีการดูแลรักษาฟันปลอม มีดังนี้
- ระยะแรกของการจัดฟันควรเลือกกินอาหารที่เคี้ยวง่าย เพื่อให้ฟันปลอมที่ถูกจัดใหม่นั้นเข้าที่ก่อน อาหารที่แนะนำหลังการจัดฟัน เช่น โยเกิร์ต ไข่กวน เนื้อปลา และผลไม้ที่อ่อนนุ่มอย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รีหรือกล้วย เป็นต้น หรือควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อความแน่ใจว่ามีอาหารชนิดใดเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายให้ฟันหรือไม่ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- เนื่องจากภายหลังการติดเครื่องมือจัดฟัน อาจมีช่องว่างหรือพื้นที่ที่ยากต่อการทำความสะอาด จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องกัดหรือเคี้ยว อาหารที่มีความแข็ง รวมถึง อาหารที่อาจกลายเป็นเศษอาหารไปติดตามช่องว่างได้ง่าย เช่น ถั่ว ป๊อปคอร์น น้ำแข็ง
- แปรงฟันให้ถูกวิธี และเลือกใช้ชุดแปรงฟันสำหรับคนจัดฟัน โดยควรทำความสะอาดฟันปลอมด้วยแปรงสีฟันที่ขนอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันถูกเสียดสีจนวัสดุเป็นรอยหรือแตกหัก นอกจากนั้น ควรหมั่นตรวจสอบเครื่องมือจัดฟันให้แน่ใจว่าทำความสะอาดแล้วอย่างทั่วถึง
- หมั่นตรวจสอบสภาพของเครื่องมือจัดฟันและฟันปลอม หากชำรุดแตกหัก หรือเหล็กจัดฟันหลุด ควรพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาและหาทางแก้ไข
จัดฟันแบบใส่ฟันปลอมราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนถึงดี
การจัดฟันแบบใส่ฟันปลอมนั้นเป็นการเข้ารับบริการทางทันตกรรมที่ต้องอาศัยการประเมินและวางแผนเพื่อการรักษาแบบรายบุคคล เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ จึงขอแนะนำ PLUS Dental Clinic มีบริการจัดฟันสำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอม โดยมีราคาเริ่มต้น 35,000 บาทตามรายละเอียดของ Package การจัดฟัน แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมระหว่างจัดฟันอื่นๆ เช่น การใส่ฟันปลอมเพิ่ม การถอดฟันปลอมระหว่างจัดฟัน หรือการใส่ฟันปลอมหลังจัดฟัน เป็นต้น สามารถปรึกษาและประเมินราคาค่าบริการต่างๆ โดยคลิกที่นี่ได้เลย
สรุป
ใส่ฟันปลอมจัดฟันได้ไหม สรุปว่าคำตอบ คือ ใส่ฟันปลอมจัดฟันได้ อย่างไรก็ตาม แผนการรักษาของคนไข้แต่ละคน หรือรูปแบบการจัดฟันที่เหมาะสม จะแตกต่างกันออกไปตามเคสฟัน และขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์ร่วมด้วยว่าสามารถจัดฟันได้หรือไม่ หรือเหมาะสมกับการจัดฟันในรูปแบบใด สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอมและต้องการจัดฟัน จึงควรต้องขอคำปรึกษาและวางแผนการจัดฟันโดยทันตแพทย์ ที่มีความถนัดเฉพาะทางด้านการจัดฟัน เพื่อให้ทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี รวมไปถึงมีความมั่นใจ สามารถยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ